พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ บูชาแล้ว"ไม่รู้ยาก ไม่รู้จน" สร้างจากชนวน “พระกริ่งชินบัญชร” อันโด่งดัง

พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ บูชาแล้ว"ไม่รู้ยาก ไม่รู้จน" สร้างจากชนวน “พระกริ่งชินบัญชร” อันโด่งดัง

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๓๗ ก่อนถึงวันทำบุญระลึกถึงวันมรณภาพของหลวงปู่ทิมครบ ๑๙ ปี ๑ วัน มูลนิธิหลวงปู่ทิมและวัดละหารไร่ ได้ร่วมกันจัดพิธีปลุกเสกหุ่นขี้ผึ้งและรูปหล่อยืนเท่าองค์จริงของหลวงปู่ทิม และวัตถุมงคล เพื่อหาปัจจัยทำนุบำรุงวัดละหารไร่



           
นอกจากรูปเหมือนยืนหลวงปู่ทิม ขนาดเท่าองค์จริงแล้ว มูลนิธิหลวงปู่ทิมยังได้สร้าง รูปเหมือนยืนหลวงปู่ทิมในอิริยาบถยืนแผ่เมตตา ไว้สำหรับประจำบ้านเรือนและสำนักงานร้านค้าขึ้นอีก ๒ ขนาด คือ ขนาดสูง ๑๒.๙ นิ้ว และ ขนาดสูง ๑๙ นิ้ว ทั้งยังได้สร้าง พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ขนาดพระเครื่องที่ใช้ประจำตัวขึ้นเป็นพิเศษอีกจำนวนหนึ่ง นอกจากจะผสมชนวน พระกริ่งชินบัญชรอันโด่งดังของหลวงปู่ทิม, ชนวนพระชัยฟ้าลั่น, ชนวนพระกริ่งปรโมของหลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ, และชนวนพระกริ่งเก้าแก้วของหลวงปู่แก้ว เกสาโร แล้วยังได้ผสม ขอบปรกใบมะขามพ่อปู่ฤาษี รุ่นปืนแตกหรือรุ่นน้ำมันเหล็กไหล พร้อมทั้งแผ่นทองแผ่นเงิน จารยันต์กาฬนาคของหลวงปู่พรหมมา เขมจาโร ลงไปด้วย

ทั้งพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ และรูปเหมือนยืนหลวงปู่ทิม ประกอบ พิธีบวงสรวงเททองตามแบบโบราณ โดยอาจารย์ทองเจือ ผู้ให้ฤกษ์เททองพระกริ่งชินบัญชรปี ๒๕๑๗ อันโด่งดังเป็นผู้ให้ฤกษ์บวงสรวงและฤกษ์ปลุกเสก พระมหาเศรษฐีนวะโกฏิ ซึ่งสร้างตั้งแต่วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๓๗ ตรงกับ วันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๙  สร้างตามเคล็ดลับของ ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปรมาจารย์ (สิริจันโท)

นอกจากจะผสมด้วยไม้มงคล ตามตำราแล้วยังผสมด้วยดินจังหวัดกำแพงเพชร, ดินทุ่งเศรษฐีเหนือ, ดินตำบลอ่างทอง, และเถ้าธนบัตรแสนล้านจากธนาคารแห่งประเทศไทย


           
เสร็จแล้วได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งใหญ่ที่วัดซึ่งมีลาภสักการะมากมายคือ วัดโสธรวราราม (หลวงพ่อพระพุทธโสธร) จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศมาปลุกเสกมากมายภายในพระอุโบสถ เบื้องหน้าหลวงพ่อโสธร
           
อันดับต่อมาได้ไปขอบารมี หลวงพ่อเจ็ก วัดระนาม จังหวัดสิงห์บุรี ปลุกเสกให้เป็นกรณีพิเศษอีกหนึ่งครั้ง หลวงพ่อเจ็กถึงกับเอ่ยปากว่า “ฉันรู้เจตนาของเธอดี”


           
องค์ต่อมาได้นำไปให้ พระอาจารย์สมบูรณ์ วัดเขาถ้ำบุนนาค ศิษย์ก้นกุฏิผู้มีพลังจิตแก่กล้าของหลวงปู่สี ปลุกเสกให้ทั้งคืน เมื่อท่านปลุกเสกให้แล้ว ท่านถึงกับพูดว่า “พระของมึงแรงจัง ทำเอากูถึงป่วยเลย”
           
และครั้งสุดท้ายปลุกเสกโดยมวยจริง ๔ องค์ หน้ากุฏิเก่าหลวงปู่ทิมพร้อมหุ่นขี้ผึ้ง และรูปหล่อยืนขนาดเท่าองค์จริง ในคืนวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๓๗  ยอดพระเกจิอาจารย์ทั้ง ๔ องค์ คือ


        ๑. พระโสภณธรรมคณี หรือเจ้าคุณอภัย อดีตเจ้าคณะจังหวัดระยอง ผู้ที่ชาวระยองยกย่องว่าเป็นพระที่กราบไหว้ได้โดยสนิทใจ,
        ๒. หลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี ศิษย์เอกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ,
        ๓. หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ซึ่งหลวงปู่คร่ำเคยเอ่ยชมว่า หลวงพ่อสินจิตท่านนิ่งดี
        และองค์ที่ ๔ คือ หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ยอดพระเกจิอาจารย์เขมรต่ำ วัดเพชรบุรี อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งดังเงียบๆ ในท้องถิ่นมานานแล้ว

เมื่อเสร็จพิธีปลุกเสก หลวงปู่หงษ์บอกว่า “หลวง พ่อใหญ่ (ซึ่งหมายถึงหลวงปู่ทิม) ท่านมายืนตรงเสาใกล้รูปเหมือนหุ่นขึ้ผึ้งของท่าน ท่านช่วยปลุกเสกอยู่นานแล้วก็หายไป หลวงปู่หงษ์พูดว่า หลวงพ่อใหญ่องค์นี้บารมีสูงมาก ของท่านทุกอย่างในพิธีนี้ล้วนสำเร็จเพราะท่าน ต้นไม้ใบหญ้า ดินหินทุกอันล้วนศักดิ์สิทธิ์หมด”

นอกจากหลวงปู่ทิมมาปลุกเสกรูปหล่อของท่านแล้ว หลวงปู่หงษ์ ท่านยังบอกว่า เทพพรหมครูบาอาจารย์มากันมากมาย แต่แปลกที่ พระโพธิสัตว์กวนอิม ก็ยังมาด้วย เพราะในพิธีนี้พระสงฆ์จีนแห่งวัดโพธิ์แมนองค์หนึ่ง ท่านได้ขอให้มูลนิธิหลวงปู่ทิมช่วยสร้าง พระชัยอวโลกิเตศวร (กวนอิม) เพื่อบูชาคุณหลวงปู่ทิม ที่ท่านฉันเจมาตลอดชีวิต ซึ่งหลวงปู่หงษ์ท่านก็ไม่ทราบมาก่อนว่ามี พระชัยอวโลกิเตศวร มาร่วมปลุกเสกด้วย
           
สิริจันโท หรือ เจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปรมาจารย์ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระหรือสายพระป่า ท่านได้ศึกษาค้นคว้า และสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ขึ้นตามตำรามอญโบราณ สมัยที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดลิงขบ เพื่อคงไว้ซึ่งตำราอันสำคัญมิให้สาปสูญ อีกทั้งเป็นการช่วยสงเคราะห์ญาติโยมให้อยู่ดี กินดี มีความร่มเย็นเป็นสุข หากบุญมีวาสนาส่งจะทำให้ร่ำรวยเป็นเศรษฐี มหาเศรษฐี
           
สิริจันโท ได้บวชและศึกษาธรรมวินัยอยู่ที่วัด ลิงขบ ตั้งแต่เป็นสามเณร เพราะพระสงฆ์มอญเป็นพระปฏิบัติที่เคร่งครัดถูกต้องตามพุทธบัญญัติ แต่ถึงกระนั้นท่านยังได้ศึกษาค้นคว้าสร้างพระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ขึ้นตามตำราโบราณของมอญ โดยเอาบุญบารมีของมหาอุบาสกมหาอุบาสิกาที่เป็นมหาเศรษฐี มีทรัพย์สินเงินทองเป็นสิบเป็นร้อยโกฏิ ในสมัยพุทธกาล ๙ ท่าน มาร่วมสร้างเป็นพระพุทธรูป ๙ พระพักตร์ขึ้น

พร้อมทั้งแต่งคำสวดเรียกว่า “พระคาถามหาเศรษฐี” เพื่อสวดบูชา พระมหาเศรษฐีนวโกฏิ ท่านจารึกคำสวดไว้ว่า เมื่อ สวดบูชาพระพุทธมหาเศรษฐีนวโกฏิทุกค่ำคืนแล้ว จะไม่รู้ยาก ไม่รู้จน ครอบครัวจะอยู่เย็นเป็นสุข และถ้าสวดบูชาในวันสำคัญ แล้วอธิษฐานทำน้ำพุทธมนต์ประพรมบ้านเรือน, ร้านค้า, บริษํทและบริวารแล้วจะร่ำรวยและอยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี
           
ดังตัวอย่างคำแปล ในคาถามหาเศรษฐีช่วงหนึ่งว่า  “ ขอแก้วแหวนเงินทอง โภคทรัพย์ทั้งปวงจงตกลงมาในเรือนของเรา เหมือนที่ตกลงมาในเรือนของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ...  ด้วยสัจจะวาจานี้ ขอสรรพมงคลทั้งปวงจงบังเกิดแก่ข้าพเจ้าฯ“


ความคิดเห็น